สื่อสังคมเครือข่ายออนไลน์ Social Network
การติดต่อสื่อสารเป็นการสร้างความเข้าใจจากบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลหนึ่ง
หรือหน่วยงานหนึ่งไปยังหน่วยงานหนึ่ง
หรือเป็นกระบวนการในการส่งข่าวสารระหว่างบุคคล หรือหน่วยงานทั้งภายใน
และภายนอกขององค์การ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ
และสามารถประสานงานให้ฝ่ายต่างๆได้ปฏิบัติหน้าที่ความรับผิดชอบได้ตรงตามวัตถุประสงค์ขององค์การ
ซึ่งการติดต่อสื่อสารที่ชัดเจนนั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ไม่ยาก
โดยจุดเริ่มต้นของการสื่อสารที่บรรลุเป้าหมายที่สุดก็คือ การทำให้สาร และการสื่อสารนั้นเรียบง่าย ปฏิบัติได้มากที่สุด
และง่ายต่อการจำที่สุด ซึ่งสามารถทำได้โดยอาศัยหลัก และขั้นตอนการติดต่อสื่อสาร
การติดต่อสื่อสาร : Communications
โปรโตคอล
คือชุดของกฎสำหรับรูปแบบข้อความและโพรซีเดอร์
ที่อนุญาตให้เครื่องและแอ็พพลิเคชันโปรแกรมแลกเปลี่ยนข้อมูล กฎเหล่านี้ต้องเป็นไปตามเครื่องแต่ละเครื่องที่เกี่ยวข้องในการสื่อสาร
เพื่อให้โฮสต์การรับสามารถเข้าใจข้อความนั้นๆ ชุด TCP/IP ของโปรโตคอลสามารถเข้าใจได้ในรูปของ เลเยอร์ (หรือระดับ)
ชนิดของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
เครือข่ายคอมพิวเตอร์
จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของขนาด โดยทั่วไปจะมีอยู่ 3 ชนิด คือ
เครือข่ายบริเวณเฉพาะที่
เครือข่ายบริเวณนครหลวง และเครือข่ายบริเวณกว้าง
ทุกชนิดสามารถใช้งานได้ทั้งแบบมีสายและแบบไร้สาย
เครือข่ายเฉพาะที่หรือแลน (Local Area Network :
LAN)
หมายถึง เครือข่ายที่ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงเชื่อมต่อกันภายในอาคารเดียวกันหรือบริเวณที่ใกล้เคียง ระยะทางในการเชื่อมต่อระหว่างจุดไม่ไกลมาก
เครือข่ายบริเวณนครหลวงหรือแมน (Metropolitan
Area Network : MAN) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าเครือข่ายแลน มักจะใช้เชื่อมต่อระหว่างอาคารหรือใช้เชื่อมต่อภายในตำบลหรืออำเภอเดียวกัน
เครือข่ายบริเวณกว้างหรือเครือข่ายแวน (Wide
Area Network : WAN) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีการเชื่อมต่อครอบคลุมทั่วประเทศหรือทั่วโลก
โดยช่องทางสื่อสารอาจจะเป็นสายเคเบิลระหว่างประเทศ ไมโครเวฟ หรือดาวเทียม เพื่อรับส่งข้อมูลไปยังผู้ใช้ที่อยู่ไกล
ตัวอย่างเช่น จากกรุงเทพไปยังจังหวัดต่างๆ
ในแต่ละภาค
บริการของเครือข่าย
-HTTP หรือ
www
หรือ World Wide Web คือการเผยแพร่ข้อมูลในรูปของเว็บเพจ
-e-M@il หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
-FTP
เป็นการอัพโหลด/ดาวน์โหลดข้อมูล Chat, Web board, Conference
-IP
Address หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นตัวเลข 4 ชุด (3
หลัก) คั่นด้วยจุด เช่น 118.174.14.67 , 203.154.131.5 มีจำนวน
3 Class คือ A
B และ C
โดเมนเนม
ความหมายโดยทั่วๆ ไป หมายถึง ชื่อเว็บไซต์ ชื่อบล็อก
ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อให้จดจำและนำไปใช้งานได้ง่าย ทั้งในการเข้าชมผ่านบราวเซอร์ของผู้ใช้ทั่วไป
ยังรวมไปถึงผู้ดูแลระบบโดเมนเนมซีสเทม
ที่สามารถแก้ไขไอพีแอดเดรสของชื่อโดเมนเนมนั้นๆ ได้ทันที โดยที่ผู้ใช้ทั่วไปไม่จำเป็นต้องรับรู้หรือจดจำไอพีแอดเดรสที่มีการเปลี่ยนแปลง
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เผยแพร่เว็บไซต์
จะมีโดนเมนเนมเฉพาะไม่ซ้ำกับใคร
โดนเมนเนม 2 ระดับ
จะประกอบด้วย www . ชื่อโดเมน
. ประเภทของโดเมน เช่น www.b2ccreation.comประเภทของโดเมน
คือ คำย่อขององค์กร โดยประเภทขององค์กรที่พบบ่อย มีดังต่อไปนี้
* .com คือ บริษัท หรือ องค์กรพาณิชย์
* .org คือ องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงผกำไร
* .net คือ องค์กรที่เป็นเกตเวย์ หรือ จุดเชื่อมต่อเครือข่าย
* .edu คือ สถาบันการศึกษา
* .gov คือ องค์กรของรัฐบาล
* .mil คือ องค์กรทางทหาร
โดนเมนเนม 3 ระดับ
จะประกอบด้วย www
. ชื่อโดเมน . ประเภทของโดเมน . ประเทศ เช่น www.kmitnb.ac.th,
www.nectec.or.th, www.google.co.th
ประเภทขององค์กรที่พบบ่อยคือ
* .co คือ บริษัท หรือ องค์กรพาณิชย์
* .ac คือ สถาบันการศึกษา
*
.go คือ องค์กรของรัฐบาล
* .net คือ องค์กรที่ให้บริการเครือข่าย
*
.or คือ องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงผลกำไร
ตัวย่อของประเทศที่ตั้งขององค์กร
*
.th คือ ประเทศไทย
* .cn คือ ประเทศจีน
*
.uk คือ ประเทศอังกฤษ
* .jp คือ ประเทศญี่ปุ่น
*
.au คือ ประเทศออสเตรเลีย
การค้นหาข้อมูล
- Google
ทำการค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ จำนวนมากกว่า 8 พันล้าน
เว็บเพจ ค้นรูปภาพ (image)จำนวนมากกว่า 1 พันล้านภาพ
- เทคนิคในการสืบค้น :
ให้เลือกใช้คำค้นที่ จำเพาะเจาะจง
- และมีความหมายตรงกับข้อมูลที่ต้องการให้มากที่สุด
- อาจใช้คำเดียว
หรือหลายๆ คำก็ได้ เช่น distance learning thailand (โปรแกรมจะทำการค้นทุกคำ และเชื่อมด้วย AND โดยอัตโนมัติ)
- การคำค้นภาษาอังกฤษ
จะพิมพ์อักษรตัวใหญ่หรือเล็กก็ได้ มีความหมายเท่ากัน
- อาจบังคับการค้นเป็นวลี
โดยการใส่เครื่องหมายคำพูด คร่อม เช่น “star war episode I”
- Google ใช้ stemming
technology ในการค้นคำอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกันกับคำที่พิมพ์เข้าไป
เช่น ถ้าค้นคำว่า dietary foods จะได้ผลการค้นที่ใช้คำว่า diet,
diets และ food ด้วยเช่นกัน
- ถ้าไม่ต้องการให้คำใด
ให้ใส่เครื่องหมาย – นำหน้าคำนั้น เช่น becham –victoria
- ปุ่ม “I’m
feeling lucky” หรือ “ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลย” เป็นการสั่งให้ค้น
และแสดงผลตรงไปที่เว็บไซต์ซึ่งตรงกับคำค้นมากที่สุด
เพียงเว็บไซต์เดียวเพื่อความสะดวกรวดเร็ว
- นอกจากการค้นแบบ Basic
Search แล้ว อาจเลือกใช้ Advanced Search (ค้นหาอย่างละเอียด)
เพื่อช่วยให้การค้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ในกรณีที่ต้องการให้ค้นคำใดคำหนึ่งก็ได้
ให้ใช้ OR
เชื่อมคำ (พิมพ์ด้วยอักษรตัวใหญ่) เช่น “travel guide”
hongkong OR Singapore
- ค้นคำพ้อง ให้ใช้เครื่องหมาย
~
(tilde) เช่น ~anthropologist ผลการค้นจะได้ทั้ง anthropologist
(นักมานุษยวิทยา) และ archaeonologist (นักโบราณคดี)
ภัยร้ายที่แฝงตัวในอินเทอร์เน็ต
-
การพูดคุยกับคนรู้จักในอินเทอร์เน็ต
ซึ่งอาจนำพาสู่การล่อลวงทั้งทางร่างกายและทรัพย์สิน
-
การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบางอย่าง
อาจนำภัยมาสู่ตัวโดยมิได้ตั้งใจ
-
การหลอกลวงในการซื้อ-ขายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต
เป็นที่ด่าทอ หมิ่นประมาทใส่ร้ายผู้อื่น
-
การส่งต่อภาพโป๊ คลิปโป๊ต่างๆ
อาจนำพาตำรวจมาถึงตัวได้
อินเทอร์เน็ตคือผู้ร้ายหรือ
- ต้นตอของปัญหาไม่ใช่อินเทอร์เน็ต
- เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ใช้งาน
- เกิดจากปัญหาส่วนตัวของผู้ใช้งาน
- เกิดจากความโลภ อยากมี
อยากได้
- เกิดจากการขาดการแนะนำ
ขาดการเรียนรู้ และขาดการดูแลเอาใจใส่
- เชื่อว่าอินเทอร์เน็ตคือทุกสิ่ง....
คือพระเจ้า
วิธีป้องกันอันตรายจากการใช้อินเทอร์เน็ต
- ไม่ควรใส่ข้อมูลจริงในข้อมูลประวัติส่วนตัว
เช่น ชื่อจริง เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล์
- ไม่ควรให้ข้อมูลส่วนตัวแก่บุคคลที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต
- ถ้าเจอบุคคลที่ไม่พึงประสงค์เช่น
ข่มขู่ หยาบคาย คุยเรื่องเซ็กซ์ ฯลฯ ให้ทำการ Block ชื่อของบุคคลนั้น
- ไม่ควรออกไปพบกับคนแปลกหน้าที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ตโดยลำพัง
ในที่ลับตา
- อย่าปักใจเชื่อข้อมูลที่ได้รับจากฝั่งตรงข้ามว่าเป็นจริงทั้งหมด
เพราะอาจจะเป็นการโกหกเพื่อสร้างภาพลักษณ์ได้
ความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์
- การโพสท์กระทู้ใส่ความ
ดูถูก ดูหมิ่น เหยียดหยามผู้อื่นให้เกิดความเสียหาย
- เผยแพร่ภาพ สื่อ ลามก
อนาจาร ส่งต่อให้กับผู้อื่น
- ปล่อยข่าวลือ
สร้างความตระหนก เป็นภัยต่อสังคม สถาบัน เกิดผลร้ายทางเศรษฐกิจ
มีความผิดตาม
มาตรา ๑๔ การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม, เท็จ หรือไม่เหมาะสม
หรือการส่งต่อข้อมูล (forward) มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภาพประกอบ